วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมอง (Mental Discipline)

ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมอง (Mental Discipline) 
ทิศนา  แขมมณี.(2553 : 45-48). ได้กล่าวถึงทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมอง (Mental Discipline) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า จิตหรือสมองหรือสติปัญญา (mind) สามารถพัฒนาให้ปราดเปรื่องได้โดยการฝึก เช่นเดียวกับกล้ามเนื้อซึ่งจะแข้งแรงได้ด้วยการฝึกออกกำลังกาย ในการฝึกจิตหรือสมองนี้ทำได้โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ ยิ่งยากมากเท่าไร จิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น  นักคิดกลุ่มนี้มีแนวคิดออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ 
(Bigger, 1964: 19-30)

              1.1 กลุ่มที่เชื่อในพระเจ้า (Theistic Mental Discipline) นักคิดที่สำคัญของกลุ่มนี้คือ เซนต์ออกุสติน (St.Augustine)  จอห์น คาลวิน (John Calvin) และคริสเตียน โวล์ฟ (Christian Wolff)
นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อ ดังนี้ 
ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
               1.1.1.มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความชั่ว และการกระทำใด ๆ ของมนุษย์เกิดจากแรงกระตุ้นภายในตัวของมนุษย์เอง (bad-active)
               1.1.2.มนุษย์พร้อมที่จะทำความชั่วหากไม่ได้รับการสั่งสอนอบรม
               1.1.3.สมองมนุษย์นั้นแบ่งออกเป็นส่วน ๆ (faculties) ซึ่งหากได้รับการฝึกอย่างเหมาะสมจะช่วยทำให้เกิดความเข้มแข็ง สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ 
               1.1.4.การฝึกสมอง หรือฝึกระเบียบวินัยของจิตเป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาให้มนุษย์เป็นคนดีและฉลาด
               1.1.5.การฝึกฝนสมองให้รู้จักคิด ต้องใช้วิชาที่ยากเช่น วิชาคณิตศาสตร์ ปรัชญา ภาษาละติน ภาษากรีก และคัมภีร์ไบเบิล เป็นต้น
                1.2 ทฤษฎีของกลุ่มที่เชื่อในความมีเหตุมีผลของมนุษย์ (Humanistic Mental Discipline) นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือ พลาโต (plato) และอริสโตเติล (Aristotle) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อดังนี้
ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
               1.2.1. พัฒนาการในเรื่องต่าง ๆ เป็นความสามารถของมนุษย์ มิใช่พระเจ้าบันดาลให้เกิด
               1.2 2. มนุษย์เกิดมามีลักษณะไม่ดีไม่เลว และการกระทำของมนุษย์เกิดจากแรงกระตุ้นภายใน (neutral-active)
               1.2 3. มนุษย์เป็นผู้มีเหตุผลพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง มนุษย์มีอิสระที่จะเลือกทำความเข้าใจและหาเหตุผลของตน หากได้รับการฝึกฝนอบรมก็จะสามารถพัฒนาศักยภาพที่ติดตัวมามนุษย์มีความรู้ตั้งแต่เกิด แต่ถ้าขาด การกระตุ้นความรู้จะไม่แสดงออกมา

สุริน ชุมสาย ณ อยุธยา. (2553). ได้รวบรวมแล้วกล่าวถึงทฤษฎีนี้ว่า   นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า จิตหรือสมองหรือสติปัญญา (mind) สามารถพัฒนาให้ปราดเปรื่องโดย    การฝึกเช่นเดียวกับกล้ามเนื้อซึ่งจะแข็งแรงได้ด้วยการฝึกออกกำลังกาย ในการฝึกจิตหรือสมองนี้ทำได้โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ ยิ่งยากมากเท่าไร จิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น    นักคิดกลุ่มนี้มีแนวคิดแยกออกเป็น 2 กลุ่ม ย่อย คือ
                1.กลุ่มที่เชื่อในพระเจ้า (Theistic Mental  Discipline)
                2.ทฤษฎีของกลุ่มที่เชื่อในความมีเหตุผลของมนุษย์ (Humanistic Mental Discipline)

สยุมพร  ศรีมุงคุณ.(2555)  ได้รวบรวมแล้วกล่าวถึงทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมอง(Mental Discipline)  ไว้ว่า  จิตหรือสมองหรือสติปัญญา(mind)  สามารถพัฒนาให้ปราดเปรื่องได้โดยการฝึก  ในการฝึกจิตหรือสมองนี้ทำได้โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ ยิ่งยากมากเท่าไร  จิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น  หลักการในการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้เน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้  โดยการกระตุ้นความรู้ในตัวผู้เรียนให้แสดงออกมา วิธีการสอนแบบโสเครติส(Socratic Method)  และวิธีการสอนแบบบรรยาย(Didactic Method)  เป็นวิธีการสอนตามทฤษฏีนี้ที่ใช้คำถามเพื่อดึงความรู้ในตัวผู้เรียนออกมาให้กระจ่างชัดและช่วยเพิ่มเติมประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียน  ซึ่งเป็นวิธีการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี

สรุป

                ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมอง (Mental Discipline)   จิตหรือสมองหรือสติปัญญาสามารถพัฒนาได้โดยการฝึก การฝึกสมอง หรือฝึกระเบียบวินัยของจิตเป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาให้มนุษย์เป็นคนดีและฉลาด การฝึกฝนสมองให้รู้จักคิด โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ ยิ่งยากมากเท่าไร  จิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น  ต้องใช้วิชาที่ยาก เช่น วิชาคณิตศาสตร์ ปรัชญา ภาษาลาติร เป็นต้น หลักการในการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้เน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยการกระตุ้นความรู้ในตัวผู้เรียนให้แสดงออกมาและผู้สอนช่วยเพิ่มเติมประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียน ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ดี



ที่มา  
ทิศนา แขมมณี. (2553). การสอนจิตวิทยาการเรียนรู้ เรื่องศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 13. แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : กรุงเทพฯ. ค้นหาเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2561. 
สุริน ชุมสาย ณ อยุธยา.(2553). http://www.surinx.blogspot.com. [ออนไลน์]. เข้าถึงเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2561.
สยุมพร  ศรีมุงคุณ.(2555).https://www.gotoknow.org/posts/341272. [ออนไลน์]. เข้าถึงเมื่อ
วันที่ 8 กรกฎาคม 2561. 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น