ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมอง
(Mental Discipline)
ทิศนา แขมมณี.(2553 : 45-48). ได้กล่าวถึงทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมอง
(Mental Discipline) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า
จิตหรือสมองหรือสติปัญญา (mind) สามารถพัฒนาให้ปราดเปรื่องได้โดยการฝึก
เช่นเดียวกับกล้ามเนื้อซึ่งจะแข้งแรงได้ด้วยการฝึกออกกำลังกาย ในการฝึกจิตหรือสมองนี้ทำได้โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ
ยิ่งยากมากเท่าไร จิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น นักคิดกลุ่มนี้มีแนวคิดออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ
(Bigger, 1964: 19-30)
1.1 กลุ่มที่เชื่อในพระเจ้า (Theistic
Mental Discipline) นักคิดที่สำคัญของกลุ่มนี้คือ เซนต์ออกุสติน (St.Augustine)
จอห์น คาลวิน (John Calvin) และคริสเตียน
โวล์ฟ (Christian Wolff)
นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อ
ดังนี้
ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
1.1.1.มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความชั่ว
และการกระทำใด ๆ ของมนุษย์เกิดจากแรงกระตุ้นภายในตัวของมนุษย์เอง (bad-active)
1.1.2.มนุษย์พร้อมที่จะทำความชั่วหากไม่ได้รับการสั่งสอนอบรม
1.1.3.สมองมนุษย์นั้นแบ่งออกเป็นส่วน
ๆ (faculties) ซึ่งหากได้รับการฝึกอย่างเหมาะสมจะช่วยทำให้เกิดความเข้มแข็ง
สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้
1.1.4.การฝึกสมอง
หรือฝึกระเบียบวินัยของจิตเป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาให้มนุษย์เป็นคนดีและฉลาด
1.1.5.การฝึกฝนสมองให้รู้จักคิด
ต้องใช้วิชาที่ยากเช่น วิชาคณิตศาสตร์ ปรัชญา ภาษาละติน ภาษากรีก และคัมภีร์ไบเบิล
เป็นต้น
1.2 ทฤษฎีของกลุ่มที่เชื่อในความมีเหตุมีผลของมนุษย์
(Humanistic Mental Discipline) นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือ
พลาโต (plato) และอริสโตเติล (Aristotle) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อดังนี้
ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
1.2.1. พัฒนาการในเรื่องต่าง ๆ
เป็นความสามารถของมนุษย์ มิใช่พระเจ้าบันดาลให้เกิด
1.2 2. มนุษย์เกิดมามีลักษณะไม่ดีไม่เลว
และการกระทำของมนุษย์เกิดจากแรงกระตุ้นภายใน (neutral-active)
1.2 3. มนุษย์เป็นผู้มีเหตุผลพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง
มนุษย์มีอิสระที่จะเลือกทำความเข้าใจและหาเหตุผลของตน
หากได้รับการฝึกฝนอบรมก็จะสามารถพัฒนาศักยภาพที่ติดตัวมามนุษย์มีความรู้ตั้งแต่เกิด
แต่ถ้าขาด การกระตุ้นความรู้จะไม่แสดงออกมา
สุริน ชุมสาย ณ อยุธยา. (2553).
ได้รวบรวมแล้วกล่าวถึงทฤษฎีนี้ว่า นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า จิตหรือสมองหรือสติปัญญา (mind) สามารถพัฒนาให้ปราดเปรื่องโดย การฝึกเช่นเดียวกับกล้ามเนื้อซึ่งจะแข็งแรงได้ด้วยการฝึกออกกำลังกาย
ในการฝึกจิตหรือสมองนี้ทำได้โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ ยิ่งยากมากเท่าไร
จิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น นักคิดกลุ่มนี้มีแนวคิดแยกออกเป็น 2 กลุ่ม ย่อย คือ
1.กลุ่มที่เชื่อในพระเจ้า (Theistic
Mental Discipline)
2.ทฤษฎีของกลุ่มที่เชื่อในความมีเหตุผลของมนุษย์
(Humanistic Mental Discipline)
สยุมพร ศรีมุงคุณ.(2555) ได้รวบรวมแล้วกล่าวถึงทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมอง(Mental
Discipline) ไว้ว่า จิตหรือสมองหรือสติปัญญา(mind)
สามารถพัฒนาให้ปราดเปรื่องได้โดยการฝึก ในการฝึกจิตหรือสมองนี้ทำได้โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ
ยิ่งยากมากเท่าไร จิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
หลักการในการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้เน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
โดยการกระตุ้นความรู้ในตัวผู้เรียนให้แสดงออกมา
วิธีการสอนแบบโสเครติส(Socratic Method) และวิธีการสอนแบบบรรยาย(Didactic
Method) เป็นวิธีการสอนตามทฤษฏีนี้ที่ใช้คำถามเพื่อดึงความรู้ในตัวผู้เรียนออกมาให้กระจ่างชัดและช่วยเพิ่มเติมประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียน
ซึ่งเป็นวิธีการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี
สรุป
ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมอง
(Mental Discipline) จิตหรือสมองหรือสติปัญญาสามารถพัฒนาได้โดยการฝึก
การฝึกสมอง
หรือฝึกระเบียบวินัยของจิตเป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาให้มนุษย์เป็นคนดีและฉลาด
การฝึกฝนสมองให้รู้จักคิด โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ ยิ่งยากมากเท่าไร
จิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ต้องใช้วิชาที่ยาก เช่น วิชาคณิตศาสตร์ ปรัชญา ภาษาลาติร เป็นต้น หลักการในการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้เน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
โดยการกระตุ้นความรู้ในตัวผู้เรียนให้แสดงออกมาและผู้สอนช่วยเพิ่มเติมประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียน
ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ดี
ที่มา
ทิศนา
แขมมณี. (2553). การสอนจิตวิทยาการเรียนรู้
เรื่องศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ.
พิมพ์ครั้งที่ 13. แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : กรุงเทพฯ. ค้นหาเมื่อวันที่
8 กรกฎาคม 2561.
สุริน
ชุมสาย ณ อยุธยา.(2553). http://www.surinx.blogspot.com. [ออนไลน์]. เข้าถึงเมื่อวันที่
9 กรกฎาคม 2561.
สยุมพร ศรีมุงคุณ.(2555).https://www.gotoknow.org/posts/341272.
[ออนไลน์]. เข้าถึงเมื่อ
วันที่ 8
กรกฎาคม 2561.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น